2/28/2555

22 เคล็ดลับ ค้นพบตัวเองสู่งานในฝัน



25 วิธีเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

         ทุกคนคงเคยได้ยินว่า "ถ้าได้ทำงานที่ตัวเองรัก คุณจะไม่ต้องทำงานเลยสักวัน"เพราะเราจะไม่รู้สึกว่าการทำงานเป็นเรื่องที่น่าเบื่อเลยสักนาที ในเมื่อมันคือสิ่งที่เรารักทั้งยังช่วยทำเงินได้อีกแน่ะ ลองสังเกตดูดี ๆ คนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ก็เพราะทำงานที่ตัวเองรักทั้งนั้นแหละ แค่ได้ทำในสิ่งที่ชอบ เรื่องเงินก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรแล้ว แต่...การจะรู้ว่าตัวเองชอบอะไรไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ และบางคนกว่าะรู้ตัวก็อาจสายไปแล้ว 

         ดังนั้น ถ้าใครยังไม่ค้นพบตัวเองล่ะก็ ไม่ต้องกังวลไป วันนี้เรามีเคล็ดลับดี ๆ จากเว็บไซต์ dumblittleman.com มาเป็นตัวช่วยค้นหาความฝันของตัวเอง พร้อมวิธีไปให้ถึงฝันมาบอกกันจ้า

 1. เช็คงานอดิเรก

         ลองนึกดูว่าในแต่ละวันคุณชอบทำอะไรบ้าง เช่น วาดรูป เล่นกีฬา อ่านหนังสือ เพราะสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่คุณชอบ และเต็มใจทำโดยไม่ต้องมีเงินเดือน ใครจะรู้ งานอดิเรกของคุณอาจกลายเป็นอาชีพในอนาคตเข้าสักวันก็ได้

 2. พิจารณาความสามารถของตัวเอง

         อย่าพูดว่าคุณไม่มีอะไรเลย ทุกคนมีความสามารถกันทั้งนั้นแหละ แค่แตกต่างกันไปเท่านั้นเอง คุณอาจจะร้องเพลงเพราะ หรือเก่งวิชาไหนเป็นพิเศษตอนเรียน ลองสังเกตุตัวเองดูนะ

 3. เพื่อนร่วมงาน

         ลองถามตัวเองว่าคุณอยากทำงานกับคนแบบไหน เพราะเพื่อนร่วมงานก็เป็นสิ่งสำคัญในการเลือกงานเช่นกัน พวกเขาจะมีผลกับบรรยากาศในที่ทำงานและตัวงานอย่างมากเลยล่ะ

 4. อุปกรณ์

         อุปกรณ์ที่คุณต้องใช้ในการทำงานก็ช่วยให้คุณค้นพบตัวเองได้ไม่ยาก เช่น ถ้าคุณรักการอยู่ท่ามกลางเสื้อผ้า คุณอาจเป็นว่าที่ดีไซเนอร์ ช่างเย็บผ้า และอื่น ๆ

 5. ที่ทำงาน

         คุณอยากทำงานในที่ทำงานแบบไหน บางคนอาจจะอยากนั่งทำงานในออฟฟิศที่มีคอมพิวเตอร์เยอะ ๆ หรือบางคนอาจจะอยากออกไปไหนมาไหนตลอดเวลา สิ่งเหล่านี้อาจช่วยให้คุณตัดสินใจและแยกประเภทงานที่คุณอยากทำได้ง่ายขึ้น

 6. คุณมีความสุขที่สุดตอนไหน

         ตั้งแต่เด็กจนโต คุณมีความสุขมากที่สุดตอนช่วงวัยไหน ลองนึกย้อนดูว่าช่วงนั้นคุณชอบทำอะไร บางทีคุณอาจจะเจอสิ่งที่ตัวเองชอบมานานแล้ว แต่ไม่เคยรู้ตัวก็ได้

 7. ลองใช้เว็บไซต์ออนไลน์เป็นตัวช่วย

         มีเว็บไซต์ออนไลน์มากมายที่มีบริการช่วยให้คุณรู้จักอาชีพที่เหมาะกับความชอบของตัวเอง โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใด ๆ ลองไปหามาทำกันดู ไม่แน่น๊าา คุณอาจเจออาชีพในฝัน

 8. เขียนความชอบของตัวเอง 5 อันดับ

         ลองจัดอันดับเรื่องที่คุณชอบทำมาซัก 5 ข้อ จะเป็นเรื่องอะไรก็ได้ที่คุณชอบ ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องที่คุณถนัด และลองลงมือทำสิ่งที่ลิสต์มาดู อาจช่วยเจอเส้นทางที่คุณชอบเข้าก็ได้

 9. เขียนอาชีพที่คิดว่าเหมาะกับตัวเอง 5 อันดับ

         พยายามเขียนอาชีพออกมาให้เยอะที่สุดเท่าที่จะนึกออก แล้วลองพิจารณาอาชีพที่ตรงกับความชอบในลิสต์นี้ดู อาจเจออาชีพที่ถูกใจคุณก็ได้

 10. จินตนาการ

         ลองนึกภาพตัวเองทำงานในตำแหน่งที่คิดไว้ดูว่าตอนนั้นงานของคุณน่าจะเป็นยังไง เพื่อนร่วมงานและที่ทำงานเป็นแบบไหน แล้วเขียนออกมา จะทำให้คุณรู้ได้ชัดเจนขึ้นว่า คุณชอบและรู้จักงานที่คุณเลือกดีแน่แล้วหรือยัง

 11. วางแผนชีวิต

         ในเมื่อรู้แล้วว่าตัวเองชอบอะไรตอนนี้เราก็ควรวางแผนชีวิตให้ดีเพื่อจะได้มีโอกาสทำในสิ่งที่ชอบ การหมั่นฝึกฝนทุกวัน หรือเลือกคณะเรียนที่เหมาะกับสายงานก็เป็นทางช่วยให้คุณมีโอกาสมากขึ้นเช่นกัน

 12. ปรึกษาผู้อื่น

         ลองปรึกษากับผู้อื่นดูบ้าง เผื่อจะได้ความคิดเพิ่มอีกหลาย ๆ ทางว่าคุณสามารถทำอะไรได้อีกเพื่อให้ได้ทำงานที่ฝัน มันย่อมมีวิธีที่ทำให้คุณได้งานที่คุณต้องการอีกแน่ โอกาสมันมีอยู่เสมอนั่นแหละ

 13. หาข้อมูลอาชีพ

         จะหาอ่านจากเว็บไซต์หรือตามหนังสือก็ได้ เพื่อให้คุณรู้ขอบเขตของงานมากขึ้น จะได้พัฒนาทักษะที่ตัวเองไปในทางทีถูกต้อง

 14. หาข้อมูลผู้ที่ทำอาชีพนี้

         ไปลองอ่านประวัติคนที่ทำอาชีพนั้น ๆ ดู ว่าเขามาทำอาชีพนี้ได้อย่างไร เขามีความสามารถอะไร จะได้เป็นแรงบันดาลใจให้ตัวเอง และเป็นการศึกษาแนวทางไปในตัวด้วยยังไงล่ะ

 15. ฝึกฝน 

         ฝึกทักษะที่ควรมีให้เก่งยิ่งขึ้น จะลองฝึกที่บ้านทุกวัน หรือจะไปฝึกงานเป็นเรื่องเป็นราวเพื่อให้ได้เรียนงานและเพิ่มความน่าเชื่อถือให้ตัวเองก็จะดีไม่น้อย

 16. หาแรงบันดาลใจ

         ลองหาบทความเกี่ยวกับผู้คนที่ประสบความสำเร็จมาอ่าน ว่าเขาเจออุปสรรคอะไรมาบ้าง และเขาผ่านมาได้อย่างไร จะได้เป็นกำลังใจให้เรา ในเวลาที่เรารู้สึกท้อแท้

 17. หาแรงผลักดัน

         บางครั้งที่นึกไม่ออก บอกไม่ถูก รู้สึกเฉื่อย ๆ หรือหมดพลัง ก็ลองหาแรงผลักดันใหตัวเองมุ่งมั่นที่จะได้งานนั้นยิ่งขึ้น เช่น สัญญาว่าจะให้รางวัลตัวเองถ้าได้งานที่ฝันไว้

 18. มุ่งไปที่เป้าหมาย

         เมื่อคุณเลือกสายงานนี้แล้วก็จงละความฝันอื่นทิ้งไป เพราะความลังเลทำให้คุณขาดความกระตือรือร้น มุ่งมั่น ที่จะเดินตามเส้นทางที่ตัวเองเลือก จงทำในสิ่งที่คุณปักหมุดไว้อย่างเต็มที่

 19. หาคีย์เวิร์ดสั้น ๆ มาผลักดันตัวเอง

         คิดถึงสิ่งที่คุณต้องมีเพื่อให้ได้งานเพียงสองถึงสามคำสั้น ๆ แล้วเขียนออกมาแปะไว้ในที่ ๆ คุณมองเห็นบ่อย ๆ จะทำให้คุณไม่ลืมจุดยืนความมุ่งมั่นของตัวเอง

 20. จัดเวลาฝึกฝน

         จัดเวลาให้แน่นอนว่าจะใช้เวลาส่วนหนึ่งของทุก ๆ วันฝึกฝนตัวเองในเรื่องใดบ้าง อย่างน้อยแค่วันละครึ่งชั่วโมง หรือใครอยากจะทำมากกว่านี้ก็ได้ ตามแต่สะดวกเลยจ้า

 21. บอกตัวเองว่าเราจะล้มเหลวไม่ได้

         ย้ำกับตัวเองว่าไม่ว่าวันไหนที่เราล้มก็จะสามารถลุกขึ้นมาใหม่ได้ ไม่มีใครล้มไปตลอดกาล และคนที่กล้าเผชิญหน้าเท่านั้นที่จะประสบความสำเร็จ

 22. ใช้ชีวิตเหมือนทุกวันเป็นวันสุดท้าย

         ไม่มีอะไรแน่นอน ไม่มีใครรู้ว่าตัวเองจะตายเมื่อไหร่ เพราะฉะนั้นอย่ามัวแต่รอ จงลงมือทำก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้ทำ อย่างน้อยก่อนจะถึงวันสุดท้ายของชีวิต เราก็ได้รู้ว่าฝันของเราเป็นจริงแล้ว


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

อันตราย...ถ้าไม่คิดก่อนกิน





อาหารที่เราเลือกรับประทานทุกวันนี้คุณมั่นใจไหมว่า อาหารที่ทานไปนั้นมีความสะอาด มีคุณภาพ และไม่เกิดอันตรายในอนาคต และการมองข้ามเรื่องความปลอดภัย

โดยคำนึงถึงแต่รสชาติ ความอร่อยของอาหาร เราจึงเลือกซื้ออาหารโดยไม่ทันคิด ว่าอาหารแต่ละอย่างนี้ มีวิธีการผลิตอย่างไร และวันหมดอายุเมื่อไหร่ ควรจะเก็บรักษาอาหารอย่างไร 

วันนี้ขอเสนอ ข้อแนะนำจาก ผู้เชี่ยวชาญด้าน เรื่องเกี่ยวกับการทำ GMP ของโรงงานผลิตอาหารต่างๆ
(GMP ย่อมาจาก Good Manufacturing Practice หมายถึง หลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิตอาหารเป็นเกณฑ์ หรือข้อกำหนดขั้นพื้นฐานที่จำเป็นในการผลิตและควบคุมเพื่อให้ผู้ผลิตปฏิบัติตามและทำให้สามารถผลิตอาหารได้อย่างปลอดภัย โดยเน้นการป้องกัน และขจัดความเสี่ยงที่อาจจะทำให้อาหารเป็นพิษเป็นอันตรายหรือเกิดความไม่ปลอดภัยแก่ผู้บริโภค)

Clean food มีเกร็ดต่างๆ มาเล่าให้ฟังดังนี้

1. พวกขนมปังปี๊บ กระบวนการผลิตบางแห่งไม่ดี ไม่ว่าจะเป็นไส้สับปะรด, มันแกวหรือพืชอื่นๆ มักกวนใส่น้ำตาล และใส่กลิ่นกับแกนสัปปะรดไปนิดหน่อย

2. เชอรี่บนขนมเค้กราคาถูกตามตลาดสด คือ มะเขือเปาะฟอกสีจนใสเป็นวุ้น 
แล้วย้อมสีแดง (ผงฟอกสีทำให้เป็นโรคไต) พวกที่ใช้สารฟอกสีอื่นๆ เช่น มะม่วงกวน (แผ่นใสๆ) ยอดมะพร้าวขาวๆ

3. ซูชิในตลาดนัดที่อากาศร้อน แบคทีเรียจะเจริญเติบโตเร็ว ชูชิต้องเสริฟเย็นเท่านั้น

4. เอแคลร์กับลูกชุบ หรือขนมอะไรที่ต้องมีการปั้น ๆ ถู ๆ ต้องพึงระวังสุขอนามัย 
ควรซื้อกับร้านค้าที่รู้จักหรือมีชื่อเสียงเท่านั้น

5. ลูกอมสีอื่นๆ เช่น ฟ้า เขียว ม่วง เป็นสีที่ขายไม่ดีไม่ควรซื้อเพราะใช้สีที่เก็บไว้นาน 
ทานลูกอมสีแดง ขาว ได้

6. ปลายหน้าร้อนต่อต้นหน้าฝน ไม่ควรกินอาหารทะเล เพราะฝนเริ่มตกจะชะฝุ่นบนพื้นดินลงทะเลและสัตว์ทะเลจะกินเข้าไป จะมีแต่ไวรัส แบคทีเรีย โอกาสท้องเสียมีสูง

7. พวกอาหารแพ็คสำเร็จรูป มาอุ่นด้วย microwave ที่บ้าน wave ได้ ครั้งเดียวเท่านั้น
ไม่ควรล้าง Package ภาชนะที่ใส่อาหารมาใช้ด้วยการเข้า microwave ซ้ำเพราะสารพิษจะออกมา

8. โยเกริ์ตต่างๆจะมีแป้งผสมอยู่ประมาณ 20% ควรทานโยเกริ์ต Home made ถ้วยเล็ก ๆ (ลองหยดไอโอดีนพิสูจน์ดูก็ได้ จะพบว่าโยเกริ์ตเป็นสีน้ำเงิน)

9. น้ำปลาเปิดขวดแล้ว ควรมีอายุการใช้ไม่เกิน 1 เดือน

10. ระวังเชื้อราตามคอขวดที่เปิดแล้วต่างๆ

11. กระดาษหนังสือพิมพ์ อย่าเอามาห่อผักแช่ตู้เย็น (เพราะมีสารพิษ จากหมึก)

12. อาหารกระป๋องถ้าใช้ไม่หมดควรเอาออกจากกระป๋องใส่ภาชนะอื่นแช่ตู้เย็น

13. ฟองน้ำล้างจานที่มีน้ำยาผสมน้ำทิ้งไว้ (เป็นน้ำๆ) ทิ้งไว้ได้ไม่เกิน 1 ชั่วโมง 
แบคทีเรียจะขึ้น ควรเททิ้งไปหรือล้างฟองน้ำให้สะอาดทุกครั้งที่ใช้งาน

14. อาหารหมักดองต้องระวังมีไวรัสที่ทำลายกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง 
ผักกาดดองตามท้องตลาด ในโรงงานบางแห่งจะมีกระบวนการผลิตที่ไม่สะอาด
(ใช้คนลงไปในอ่างดอง เราไม่แน่ใจว่าคนนั้นๆ มีโรคหรือไม่) ควรใช้ผักกาดดองกระป๋องที่เชื่อถือได้

15. เบียร์สดจะไม่กรองยีสต์ที่ตายแล้วออก เราจะกินยีสต์ที่ตายแล้วเข้าไปด้วย
(เบียร์ขวดจะถูกกรองไปแล้ว) ยีสต์ที่ตายและจะเหลือผนังเซลล์ของยีสต์มีประโยชน์เป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพ กินได้ไม่เป็นไร 

ความรู้ที่ให้พวกท่านทราบในวันนี้อาจจะเกิดประโยชน์ ในการเลือกอาหารที่ท่านชื่นชอบและวิธีการเก็บรักษาการถนอมอาหารต่างๆ แก่ท่านไม่มากก็น้อย และนี้เป็นเพียงแค่บางส่วนยังมีอาหารอีกมากที่เรายังไม่ทราบกัน แล้วจะนำข้อมูลใหม่ๆ มาอัพเดทให้ทราบกันอีกในโอกาสหน้าค่ะ